CHANEL แท้ดูยังไง รวม 7 จุดเช็กพร้อมวิธีเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL
CHANEL แท้ดูยังไง รวม 7 จุดเช็กพร้อมวิธีเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL
CHANEL คือที่สุดของกระเป๋าแบรนด์ผู้หญิงที่ทุกคนใฝ่ฝัน และมีมูลค่าการลงทุนสูง แต่ยิ่งเป็นที่ต้องการมากเท่าไหร่ ของปลอมก็ยิ่งทำได้แนบเนียนมากขึ้นเท่านั้น ทำให้การทราบวิธีตรวจเช็กกระเป๋า CHANEL ของแท้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่อยากลงทุนหรือซื้อกระเป๋า CHANEL มาใช้งาน
ซึ่งในบทความนี้ JIPJIPMONEY จะมาไขข้อสงสัยว่า กระเป๋า CHANEL แท้ดูยังไง พร้อมวิธีเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบในเบื้องต้น และเลือกซื้อกระเป๋า CHANEL ของแท้มาใช้งานได้ จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
เจาะลึกวิธีเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL
หัวใจสำคัญของการตรวจสอบว่า กระเป๋า CHANEL แท้ดูยังไง คือระบบยืนยันตัวตนภายในกระเป๋า ซึ่งเปรียบเสมือนบัตรประชาชนของกระเป๋าแต่ละใบ ตลอดหลายสิบปี CHANEL ใช้ระบบการ์ดและสติ๊กเกอร์ (Hologram) แต่ล่าสุดได้เปลี่ยนเป็นระบบ Microchip แล้ว การรู้วิธีเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL ทั้งสองระบบจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
1. ระบบ Hologram Sticker และ Authenticity Card (รุ่นก่อนปี 2021)
สำหรับกระเป๋าที่ผลิตก่อนปี 2021 CHANEL จะใช้ระบบคู่กัน คือ Authenticity Card (การ์ดดำแข็ง) และ Hologram Sticker (สติ๊กเกอร์ติดในกระเป๋า) ซึ่งตัวเลข Serial Number ของทั้งสองสิ่งนี้ต้องตรงกัน สติ๊กเกอร์ของแท้จะต้องติดแน่นทนทาน มีลายน้ำโลโก้ CC และถูกออกแบบมาให้ฉีกขาดหรือลอกออกได้ยาก (เพื่อป้องกันการย้ายสติ๊กเกอร์ไปติดใบอื่น)
2. วิธีอ่านตัวเลข Serial Number เทียบปีผลิต (Decoding the Code)
การเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL ไม่ใช่แค่ดูว่ามีเลข แต่ต้องดูว่า "เลขอะไร" ตัวเลข Serial Number (Hologram) สามารถบอกปีผลิตได้ เช่น เลข 7 หลัก (Series 1-9) จะเป็นรุ่นวินเทจยุค 80s-90s ส่วนเลข 8 หลัก (Series 10-31) จะเป็นรุ่นใหม่จนถึงปี 2021 การรู้ปีผลิตจะช่วยให้เราเทียบกับสไตล์ของกระเป๋า, ฟอนต์ และลักษณะของสติ๊กเกอร์ได้ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่
3. ระบบ Microchip (รุ่นปี 2021 – ปัจจุบัน)
ตั้งแต่กลางปี 2021 (เริ่มที่ Series 31xxxxxx เป็นต้นไป) CHANEL ได้ยกเลิกระบบการ์ดและสติ๊กเกอร์ Hologram ทั้งหมด และเปลี่ยนมาใช้ "Microchip" ซึ่งเป็นแผ่นโลหะเล็กๆ (มักติดอยู่ใกล้ซิปหรือช่องกระเป๋าด้านใน) สลักโค้ดแบบใหม่ (ผสมตัวอักษรและตัวเลข) ชิปนี้ไม่สามารถสแกนได้ด้วยมือถือทั่วไป แต่ต้องใช้เครื่องอ่านเฉพาะที่ช้อปของ CHANEL เท่านั้น
7 จุดเช็ก กระเป๋า CHANEL แท้ดูยังไง เช็กตามนี้ไม่เจอของปลอมแน่นอน!
แม้ว่าการเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL จะช่วยคัดกรองกระเป๋าของแท้ไปได้มาก แต่ด้วยความนิยมของกระเป๋า CHANEL ในปัจจุบัน ทำให้มีของปลอมเกรดสูงที่สามารถลอกเลียนแบบโค้ดได้ใกล้เคียงออกมาขายมากมายในตลาด ดังนั้น JIPJIPMONEY จึงจะพาคุณมาดู 7 จุดสังเกต กระเป๋า CHANEL แท้ดูยังไง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการตรวจกระเป๋าแท้ปลอมมาแนะนำ จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. หนัง - ความนุ่มและสัมผัสของ Lambskin vs Caviar
สัมผัสของหนังเป็นจุดสังเกตที่สำคัญมาก โดยหนังที่ได้รับความนิยมก็คือ หนังแกะ (Lambskin) และหนังคาเวียร์ (Caviar)
หนังแกะ (Lambskin)
ของแท้ สัมผัสแรกจะ "นุ่มเนียน" ละเอียดเหมือนเนย (Buttery Soft) มีความแน่นของหนัง และเมื่อลองกดเบาๆ หนังจะคืนตัวได้ดี นอกจากนี้ ของแท้ จะมี "กลิ่นหนังธรรมชาติ" (Natural Leather Scent) ที่หอมจางๆ และมีความเงาแบบ "Subtle Sheen" (เงาแบบนุ่มนวล) ที่ดูหรูหรา
ในขณะที่ของปลอม สัมผัสแรกมักจะ "แข็งกระด้าง" หรือ "ด้าน" คล้ายพลาสติก หรือในเกรดที่สูงขึ้นอาจทำให้นุ่ม แต่จะให้ความรู้สึก "หนืด" มือ และมักมี "กลิ่นเคมี" หรือกลิ่นพลาสติกที่รุนแรง หากเป็นของปลอมที่เงา ก็มักจะ "เงาแวววาว" (Glossy) เกินจริง ไม่ใช่ความเงาแบบธรรมชาติค่ะ
หนังคาเวียร์ (Caviar)
ของแท้ เม็ดเกรนจะต้อง "เต่ง", "นูน", "คมชัด" และ "มีมิติ" เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความนูนต่ำของเม็ดเกรนที่สม่ำเสมอทั่วทั้งใบ และสะท้อนแสงเงาเล็กน้อยอย่างหรูหรา
จุดที่ของปลอมพลาดที่สุดคือ เม็ดเกรนจะดู "แบน" (Flat), "ไม่มีมิติ" หรือ "ปั๊มลายมาตื้นเขิน" ไม่คมชัด บางครั้งเม็ดเกรนอาจจะดู "เละ" หรือ "ใหญ่เกินจริง" ทำให้สัมผัสที่ได้ดูแข็งกระด้างคล้ายพลาสติกราคาถูก หรือดูเงาแบบไวนิล (Vinyl) มากกว่าที่จะเป็นหนังวัวปั๊มลายคุณภาพสูงค่ะ
2. ลายควิลท์ - การต่อลายต้องสมมาตร
ลายตารางเพชร (Diamond Quilt) คือซิกเนเจอร์ของ CHANEL รุ่นฮิต อย่าง Classic Flap จุดสังเกตสำคัญคือ "การต่อลาย" ของแท้จะต้องต่อกันอย่างสมมาตรและแม่นยำ แม้ในจุดที่พับปิดกระเป๋า หรือรอยต่อกับกระเป๋าหลัง (Mona Lisa pocket) ลายตารางจะต้องบรรจบกันพอดี
ในขณะที่ ของปลอม แม้จะเป็นเกรดสูง (Super Fake) ก็มักจะมาพลาดที่จุดนี้ เพราะการตัดเย็บให้ลายต่อกันเป๊ะทุกจุดต้องใช้ฝีมือช่างชั้นครูและมีต้นทุนการผลิตที่สูงมาก หากคุณเจอกระเป๋าที่ลายเบี้ยว, ไม่ต่อเนื่อง, หรือดูขาดตอน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยค่ะว่าไม่ใช่ของแท้
3. อะไหล่และโลหะ - ตัวล็อก CC และสกรู
อะไหล่ของแท้จะมีน้ำหนัก ไม่กลวง จุดตายคือ "ตัวล็อก CC" ที่ตัว C ด้านขวาจะต้องทับด้านซ้ายที่ด้านบน และ C ด้านซ้ายจะต้องทับด้านขวาที่ด้านล่างเสมอ (Right-over-Left at Top, Left-over-Right at Bottom) และสกรูที่ใช้ยึดแผ่นหลังตัวล็อก จะต้องเป็นสกรูหัวแบน (Flat-head) หรือหัวดาว (Star-shaped ในรุ่นใหม่ๆ) เท่านั้น ไม่ใช่สกรูสี่แฉก (+) แบบของปลอม
4. ตราปั๊ม - ฟอนต์และสี
ตราปั๊ม "CHANEL" และ "MADE IN..." ภายในกระเป๋าต้องคมชัด ฟอนต์ของแท้จะมีเอกลักษณ์ (เช่น ตัว A หัวตัด, ตัว H มีขีดกลางสูง) และที่สำคัญ "สีของตราปั๊ม" จะต้องตรงกับ "สีของอะไหล่" เสมอ เช่น อะไหล่ทอง ตราปั๊มก็ต้องเป็นสีทอง (ไม่ใช่สีเงิน) ของปลอมมักจะปั๊มเบลอ ฟอนต์ผิดเพี้ยน หรือใช้สีปั๊มที่ไม่ตรงกับสีอะไหล่
5. ฝีเย็บ - ความแน่นและจำนวนฝีเข็ม
หากพูดถึงมาตรฐานของ CHANEL ให้ดูที่ฝีเย็บค่ะ ของแท้จะมี "จำนวนฝีเข็มที่สูง" (High Stitch Count) โดยทั่วไปจะมีประมาณ 9-11 ฝีเข็มต่อความยาว 1 ด้านของลายตารางเพชร ทำให้กระเป๋าดูแน่นและลายควิลท์คมชัด ของปลอมมักจะมีจำนวนฝีเข็มที่น้อยกว่า (เช่น 6-8 ฝีเข็ม) ทำให้กระเป๋าดูบวมและไม่แน่นเท่า
6. การ์ดดำ - การสะท้อนแสงและขอบสีทอง
(สำหรับรุ่นก่อน Microchip) การ์ดดำแข็ง (Authenticity Card) ของแท้ต้องให้ความรู้สึกเหมือนบัตรเครดิต ไม่ใช่พลาสติกบางๆ มีติ่งการ์ดเล็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ ขอบสีทองจะต้องเป็น "สีทองด้าน" ไม่ใช่ "สีรุ้ง" แบบโฮโลแกรม และจุดสำคัญคือเมื่อส่องด้วยไฟ Black Light จะต้องมีแถบข้อความอย่างน้อยหนึ่งบรรทัดที่เรืองแสงขึ้นมา ของปลอมมักจะส่องแล้วไม่เรืองแสง หรือขอบเป็นสีรุ้ง
7. โครงสร้างและรูปทรง
กระเป๋าแบรนด์ผู้หญิงที่เป็นไอคอนิกอย่าง CHANEL จะมีโครงสร้างที่เนี้ยบมาก โดยเฉพาะรุ่น Classic Flap ของแท้จะต้องตั้งตรงได้เอง (Stand on its own) ไม่ล้มหรือย้วยง่ายๆ รูปทรง (Silhouette) จะต้องมีความสมมาตรและคมชัด ของปลอมมักจะใช้วัสดุดามทรงที่คุณภาพต่ำ ทำให้กระเป๋าดูย้วย เสียทรง หรือมีรูปร่างที่บิดเบี้ยว
เช็กเองแล้วไม่ชัวร์? ให้ผู้เชี่ยวชาญจาก JIPJIPMONEY ช่วยคุณ!
แม้จะได้รู้วิธีการเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL และไขข้อสงสัยกันไปแล้วว่า กระเป๋า CHANEL แท้ดูยังไง แต่ในยุคที่ "Super Fake" เหมือนจนแทบแยกไม่ออก การตัดสินใจซื้อ-ขายเองมีความเสี่ยงสูงมาก เพื่อความมั่นใจ 100% ให้ผู้เชี่ยวชาญของ JIPJIPMONEY ดูแลคือทางออกที่ดีที่สุดค่ะ
บริการตรวจแท้-ปลอม (Authentication Service) เพื่อความมั่นใจ
หากคุณไม่มั่นใจในกระเป๋า CHANEL รุ่นฮิตที่มีในมือ JIPJIPMONEY มีบริการรับตรวจสอบสินค้าแบรนด์เนม โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงในการตรวจสอบกระเป๋า CHANEL เรามีฐานข้อมูลและเครื่องมือเฉพาะทางที่สามารถระบุความแท้-ปลอมได้อย่างแม่นยำ 100% สร้างความมั่นใจให้คุณก่อนการซื้อ-ขาย
บริการขายฝากกระเป๋า CHANEL
เมื่อมั่นใจแล้วว่ากระเป๋าของคุณเป็นของแท้ และต้องการเปลี่ยนเป็นเงินทุนหมุนเวียน JIPJIPMONEY พร้อมให้บริการ bagforcash เรารับขายฝากกระเป๋า CHANEL, กระเป๋า DIOR รุ่นฮิต และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ โดยให้วงเงินสูงในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม พร้อมการจัดเก็บในห้องนิรภัยมาตรฐานโลก เป็นทางเลือกที่โปร่งใสและให้มูลค่าดีกว่าการจำนำกระเป๋าแบบเดิมๆ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการเช็กโค้ด CHANEL กระเป๋า
กระเป๋า CHANEL รุ่นใหม่ไม่มีสติ๊กเกอร์ (Hologram) แปลว่าปลอมหรือไม่?
ไม่ปลอมค่ะ ตั้งแต่กลางปี 2021 CHANEL ได้เปลี่ยนไปใช้ระบบ "Microchip" ที่เป็นแผ่นโลหะฝังในกระเป๋าแทนสติ๊กเกอร์และเลิกใช้การ์ดดำแล้วค่ะ
ถ้าสติ๊กเกอร์ Hologram ลอกหรือหายไป สามารถ เช็กโค้ด CHANEL กระเป๋า ได้อย่างไร?
การเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL จะทำได้ยากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถตรวจสอบจากองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ฟอนต์ของตราปั๊ม, ประเภทสกรู, และงานเย็บได้ค่ะ
ทำการ์ดหาย แต่ยังมีสติ๊กเกอร์ในกระเป๋า แบบนี้ยังเช็กได้ไหม?
เช็กได้ค่ะ สติ๊กเกอร์ Hologram ที่ติดอยู่กับตัวกระเป๋าสำคัญกว่าการ์ด (เพราะการ์ดอาจสลับใบได้) เรายังสามารถใช้เลข Serial Number นั้นตรวจสอบปีผลิตได้ค่ะ
สรุปบทความ
การเช็กโค้ดกระเป๋า CHANEL ไม่ว่าจะเป็นระบบ Hologram หรือ Microchip คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการตรวจสอบ แต่การจะตัดสินว่า CHANEL แท้ดูยังไง นั้น ต้องอาศัยการพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาควบคู่กัน หากคุณไม่มั่นใจ 100% การลงทุนในบริการตรวจกระเป๋าแท้ปลอมกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง JIPJIPMONEY คือวิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าทรัพย์สินล้ำค่าในมือคุณคือของแท้ค่ะ
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะต้องการขายฝากหรือเปลี่ยนกระเป๋าเป็นเงินสด JIPJIPMONEY ก็พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐานและความเชี่ยวชาญที่คุณวางใจได้ สนใจใช้บริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทันที
- Line: @JIPJIPMONEY หรือ @bagforcash
- โทร: 088-800-0000 ในช่วงวันและเวลาทำการ 10:00-19:00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
- E-Mail: official@jipjipmoney.com