ทำไมการตรวจกระเป๋าแบรนด์เนมแท้-ปลอมเบื้องต้นได้เองจึงสำคัญ

ทำไมการตรวจกระเป๋าแบรนด์เนมแท้-ปลอมเบื้องต้นได้เองจึงสำคัญ

อัพเดทเมื่อ 7 NOVEMBER 2025


การลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบคือความฝันของใครหลายคน แต่ในตลาดที่มีสินค้ามือสองและร้านค้ามากมาย การต้องเจอกับของปลอมก็เปรียบเสมือนฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ โชคดีที่เราสามารถเรียนรู้วิธีดูกระเป๋าแท้ปลอมเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง บทความนี้ JIPJIPMONEY ได้รวบรวมเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คุณตรวจกระเป๋าแท้ปลอมได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เพื่อให้ทุกการลงทุนของคุณคุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด


ทำไมการตรวจกระเป๋าแบรนด์เนมแท้-ปลอมเบื้องต้นได้เองจึงสำคัญ


ในยุคที่ของปลอมทำได้แนบเนียนขึ้นทุกวัน การมีความรู้พื้นฐานติดตัวไว้ถือเป็นเกราะป้องกันชั้นดี การที่คุณสามารถตรวจกระเป๋าแท้ปลอมเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักสะสมมือใหม่ หรือกำลังจะซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนมก็ตาม

  • ป้องกันการสูญเสียเงิน แน่นอนว่านี่คือข้อดีที่สำคัญที่สุด การแยกแยะของแท้ของปลอมได้ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากไปกับสินค้าที่ไม่มีมูลค่า
  • เพิ่มความมั่นใจในการซื้อขาย โดยเฉพาะเมื่อต้องซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองจากร้านค้าหรือบุคคล คุณจะสามารถประเมินสินค้าตรงหน้าได้อย่างมั่นใจและตัดสินใจได้ดีขึ้น
  • สร้างความน่าเชื่อถือเมื่อต้องการส่งต่อ หากคุณต้องการขายหรือขายฝากกระเป๋า การให้ข้อมูลและยืนยันความแท้ของสินค้าได้ จะช่วยให้การขายเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ราคาดี
  • เข้าใจในคุณค่าของงานฝีมือ การเรียนรู้วิธีดูกระเป๋าแท้ปลอม จะทำให้คุณเห็นถึงความพิถีพิถันและคุณภาพของงานฝีมือในกระเป๋าของแท้ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ของปลอมไม่สามารถลอกเลียนได้


จุดเช็กสำคัญ!วิธีดูกระเป๋าแท้ปลอมที่ใช้ได้กับทุกแบรนด์


แม้ว่ากระเป๋าแต่ละแบรนด์จะมีรายละเอียดเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดสังเกตพื้นฐานที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับกระเป๋าแบรนด์เนมส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญข้อแรกๆ ของการตรวจกระเป๋าแท้ปลอมเลยทีเดียว ลองนำ 7 เทคนิคนี้ไปใช้ตรวจสอบกระเป๋าในมือของคุณดู ไม่ว่าจะเป็นการซื้อจากร้าน รับขายฝาก หรือรับมาจากที่ไหนก็ตาม รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณได้อีกระดับแน่นอน


1. วัสดุและหนัง (Material & Leather)



กระเป๋าของแท้จะทำจากวัสดุคุณภาพสูง หนังแท้จะมีสัมผัสที่นุ่ม มีน้ำหนัก และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของหนัง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากหนัง PU หรือ PVC ที่มักจะแข็งกระด้างและมีกลิ่นเคมี สีของหนังแท้จะมีความสม่ำเสมอและสวยงามตามธรรมชาติ


2. ฝีเย็บ (Stitching)



นี่คือจุดที่ของปลอมมักจะพลาด! กระเป๋าของแท้จะโดดเด่นเรื่อง ความแน่นและความสม่ำเสมอของฝีเย็บ โดยฝีเย็บจะถูกเย็บอย่างแน่นหนา มีระยะห่างระหว่างแต่ละฝีเท่ากันเป๊ะ และเป็นแนวเดียวกันตลอดทั้งใบ เส้นด้ายจะเรียบตึง จุดล็อกด้ายจะคมชัด และมีการซ่อนปลายด้ายอย่างดีเยี่ยม

ในขณะที่ของปลอม ฝีเย็บมักจะหลวมกว่า เมื่อสังเกตดูจะพบว่า เย็บไม่ตรงแนว โดยเฉพาะตรงปลายรอยต่อของหนังที่สามารถเห็นได้ว่าด้ายดูหย่อนคล้อย และไม่เรียบเสมอกัน นอกจากนี้ยังมีอีกจุดที่จับโป๊ะได้ง่ายคือการเก็บงาน ที่มักจะเห็นปลายด้ายโผล่ออกมา หรือมีการเย็บซ้อนทับกันอย่างไม่เป็นระเบียบ


 3. อะไหล่และโลหะ (Hardware)



อะไหล่ต่างๆ เช่น ซิป ตะขอ หรือตัวล็อกของกระเป๋าแท้ จะมีน้ำหนัก ไม่กลวง สีไม่ลอกง่าย และให้สัมผัสที่ดีค่ะ จุดสังเกตที่สำคัญมากคือ "การเก็บงานขอบมุม" โดยของแท้อะไหล่จะมีความสมูท ถูกลบเหลี่ยมมาอย่างดี ไม่แหลมจนเกินไปเมื่อสัมผัส

ในทางกลับกัน ของปลอม มักจะมีความคมมาก จนรู้สึกว่าสามารถบาดผิวหรืออาจทำให้เกิดบาดแผลได้เลยทีเดียว นอกจากนี้ อย่าลืมสังเกตการปั๊มชื่อแบรนด์ที่ต้องคมชัด, ความลื่นไหลของซิป, และความแน่นหนาของตัวล็อก ซึ่งของปลอมมักใช้วัสดุราคาถูกที่เบาและดูไม่แข็งแรงค่ะ


4. ตราปั๊มและฟอนต์ (Stamping & Font)



แบรนด์เนมทุกแบรนด์มีฟอนต์ (Font) ที่เป็นเอกลักษณ์ ตราปั๊ม (Heat Stamp) บนกระเป๋าของแท้จะมีความคมชัด, ความลึกสม่ำเสมอ, และมีระยะห่างระหว่างตัวอักษรที่ถูกต้องตามมาตรฐานของแบรนด์ ซึ่งฟอนต์เหล่านี้มักมีรายละเอียดเฉพาะตัว เช่น ในหลายแบรนด์ ของแท้ ตัว 'O' จะมีความมีมิติ ดูอวบอิ่ม และมีความสโลปด้านข้างเล็กน้อย ส่วนของปลอม ตัว 'o' มักจะมีความแบน ไม่มีมิติ 

นอกจากนี้ ตัว 'i' พิมพ์เล็กของแท้ มักจะมีความเหมือนเลข '1' มากกว่า ในขณะที่ของปลอมโดยทั่วไปมักจะปั๊มเบลอ ตัวอักษรดูหนาหรือบางเกินไป และขาดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ค่ะ


5. Date Code / Serial Number



กระเป๋าแบรนด์เนมส่วนใหญ่จะมี Date Code หรือ Serial Number ที่ซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ภายในกระเป๋า ซึ่งใช้บอกล็อตการผลิตหรือปีที่ผลิต แม้ว่าปัจจุบันของปลอมจะสามารถทำตัวเลขเหล่านี้ขึ้นมาได้ แต่เราสามารถใช้ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของฟอนต์และการปั๊มได้ค่ะ 

สำหรับกระเป๋าแบรนด์เนมของแท้ ตัวอักษรและตัวเลขจะถูกปั๊มอย่างลึกคมชัด ฟอนต์จะมีระยะห่างเท่ากัน สม่ำเสมอ และมีความหนาที่พอดี ไม่บางหรือหนาจนเกินไป ในทางกลับกัน ของปลอม ตัวปั๊มมักจะดูตื้นเขิน หรือบางครั้งก็ลึกจนไหม้เกินไป และมักใช้ฟอนต์ที่ไม่ตรงตามแบบมาตรฐานของแบรนด์ ซึ่งเป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายค่ะ


6. การ์ดและอุปกรณ์ (Authenticity Card & Accessories)



อุปกรณ์ที่มาพร้อมกระเป๋า เช่น การ์ด ถุงผ้า กล่อง ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีดูกระเป๋าแท้ปลอมที่สำคัญ ของแท้จะมีคุณภาพวัสดุที่ดี การพิมพ์บนการ์ดจะคมชัด ไม่มีรอยเบลอหรือพิมพ์ผิด อย่างไรก็ตาม ต้องระวังเพราะปัจจุบันอุปกรณ์เหล่านี้ก็สามารถปลอมแปลงได้เช่นกัน จึงควรใช้เป็นองค์ประกอบร่วมกับจุดอื่นๆ

ยกตัวอย่างเช่น  Authenticity Card ของกระเป๋า CHANEL ที่สามารถเปรียบเทียบและเช็กกระเป๋าแท้ปลอมได้อย่างชัดเจน โดยมีจุดสังเกตดังนี้

  • ของแท้: เมื่อส่องด้วยไฟ Black Light จะต้องเห็นบรรทัดที่เรืองแสงขึ้นมา, มักจะมีติ่งการ์ดเล็กๆ ข้างๆ, ขอบการ์ดจะต้องเป็นสีทองคมชัด และฟอนต์ตัวเลขจะต้องตรงกับโฮโลแกรมภายในกระเป๋า
  • ของปลอม: เมื่อส่อง Black Light จะไม่เห็นบรรทัดที่เรืองแสง, มักจะไม่มีติ่งการ์ดข้างๆ, ขอบการ์ดมักจะเป็นสีรุ้งเหลือบๆ และฟอนต์ตัวเลขจะไม่ใช่ฟอนต์มาตรฐานของแบรนด์ หรือไม่ตรงกับโฮโลแกรมค่ะ


7. กลิ่น (Smell)

จุดสุดท้ายที่หลายคนมองข้ามคือเรื่องกลิ่น กระเป๋าหนังแท้จะมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่กระเป๋าของปลอม โดยเฉพาะเกรดล่างๆ มักจะมีกลิ่นพลาสติกหรือสารเคมีที่รุนแรงและฉุนจมูก


ตัวอย่างจุดสังเกตเฉพาะของแบรนด์ยอดนิยม

นอกเหนือจาก 7 เทคนิคการตรวจกระเป๋าแท้ปลอมข้างต้นแล้ว แบรนด์ไฮเอนด์แต่ละแบรนด์ก็มีรายละเอียดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมักจะใช้เป็นจุดตัดสินชี้ขาด การทราบข้อมูลเหล่านี้จะทำให้การตรวจสอบของคุณแม่นยำยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะกับแบรนด์ที่เป็นที่ต้องการในตลาดอย่าง Chanel, Dior และ Hermès ที่มีของลอกเลียนแบบออกมาเป็นจำนวนมาก


วิธีดูกระเป๋า Chanel แท้



สำหรับวิธีเช็กกระเป๋า CHANEL ของแท้ ให้สังเกตที่ตัวล็อก CC โดยตัว C ด้านขวาจะต้องทับอยู่ด้านบนของตัว C ด้านซ้ายเสมอ และด้านหลังของตัวล็อกจะมีสกรูที่เป็นรูปดาว (Star-head screw) สำหรับรุ่นใหม่ๆ ส่วนฝีเย็บลายตาราง (Quilting) จะต้องมีความสมมาตรและต่อกันอย่างสวยงาม


วิธีดูกระเป๋า Dior แท้



จุดเด่นคือลายเย็บ Cannage ที่ต้องมีความนูนสวยงามและเป็นระเบียบ ห่วงที่คล้องตัวอักษร "D.I.O.R" จะต้องแข็งแรงและมีคุณภาพสูง ป้ายหนังด้านในกระเป๋าจะต้องมีขอบที่โค้งมนเล็กน้อย ไม่ใช่สี่เหลี่ยมมุมฉาก


วิธีดูกระเป๋า Hermès แท้



Hermès ขึ้นชื่อเรื่องความประณีตสูงสุด โดยวิธีดูกระเป๋า Hermès ของแท้ สามารถเช็กได้จากฝีเย็บของ Hermès ที่เป็นแบบเย็บทแยงด้วยมือ (Saddle Stitch) ซึ่งของปลอมที่ใช้จักรจะทำไม่ได้ ตราปั๊ม "HERMÈS PARIS MADE IN FRANCE" จะต้องคมชัดและสวยงาม และมี Blind Stamp ที่ระบุปีผลิตซ่อนอยู่


วิธีดูกระเป๋า Louis Vuitton แท้



สำหรับวิธีเช็กกระเป๋า Louis Vuitton ของแท้ สามารถเช็กได้จากเอกลักษณ์ลาย Monogram Canvas ที่ต้องคมชัดและสมมาตรเสมอ หูจับและขอบที่ทำจากหนัง Vachetta ของแท้เมื่อใช้ไปนานๆ จะเปลี่ยนสีเข้มขึ้นเป็นสีน้ำผึ้งอย่างสวยงาม (เรียกว่า Patina) ส่วนตัวปั๊มแบรนด์ ตัวอักษร 'O' จะต้องกลมเกือบสมบูรณ์แบบ และกระเป๋ารุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2021 จะเปลี่ยนจาก Date Code เป็นการฝังไมโครชิปแทน


วิธีดูกระเป๋า Goyard แท้



สำหรับวิธีเช็กกระเป๋า Goyard ของแท้ ให้ดูบริเวณลาย Chevron หรือลาย Y อันเป็นเอกลักษณ์ของ Goyard ของแท้จะเป็นการเพนต์ด้วยมือ ทำให้ลายเส้นดูมีมิติ มีความไม่สมบูรณ์แบบเล็กน้อยและสัมผัสแล้วรู้สึกได้ถึงความนูนของสี ต่างจากของปลอมที่เป็นการพิมพ์ลายลงบนแคนวาสที่จะดูเรียบแบนเกินไป Serial Number มักจะถูกปั๊มอย่างชัดเจนบนสายหนังของกระเป๋าใบเล็กที่แถมมาด้วย


เช็กเองแล้วยังไม่ชัวร์? ควรทำอย่างไรต่อ



การตรวจกระเป๋าแท้ปลอมด้วยตัวเองเป็นทักษะที่ดี แต่ในปัจจุบันที่ของปลอมระดับ Mirror หรือ Hi-end ทำออกมาได้เหมือนจนน่าตกใจ การตัดสินใจด้วยตัวเองอาจยังมีความเสี่ยงอยู่

หากคุณตรวจสอบตามขั้นตอนทั้งหมดแล้วแต่ยังไม่มั่นใจ 100% วิธีที่ดีและปลอดภัยที่สุดคือการส่งกระเป๋าให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ที่ JIPJIPMONEY เรามีบริการรับตรวจสอบสินค้าแบรนด์เนม โดยทีมงานผู้มีประสบการณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้คุณได้รับผลที่แม่นยำและมั่นใจได้เต็มร้อยว่ากระเป๋าของคุณเป็นของแท้แน่นอน


คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการตรวจกระเป๋าแท้ปลอม

Date Code ไม่มี แปลว่ากระเป๋าเป็นของปลอมเสมอไปหรือไม่?

ไม่เสมอไป ปัจจุบันบางแบรนด์ เช่น Louis Vuitton ได้ยกเลิกการใช้ Date Code ในกระเป๋ารุ่นใหม่ๆ และหันไปใช้เทคโนโลยี Microchip ที่ฝังอยู่ในตัวกระเป๋าแทน


หากซื้อกระเป๋าปลอมมาโดยไม่รู้ตัว ควรทำอย่างไร?

อันดับแรกให้รวบรวมหลักฐานการซื้อและติดต่อผู้ขายเพื่อขอคืนเงินทันที หากไม่ได้รับการตอบรับ ควรแจ้งความและรายงานไปยังแพลตฟอร์มที่ทำการซื้อขายเพื่อป้องกันผู้ซื้อรายอื่น


วิธีตรวจสอบสินค้าของแท้ด้วยแอปพลิเคชันเชื่อถือได้แค่ไหน?

แอปพลิเคชัน หรือเครื่องมืออย่างไฟ Blacklight สามารถใช้เป็น 'ผู้ช่วย' คัดกรองเบื้องต้นได้ดีค่ะ แต่ไม่สามารถการันตีผลได้ 100% โดยเฉพาะกับของปลอมเกรดสูง (Super Fake) ที่พัฒนาให้เหมือนมาก วิธีตรวจสอบสินค้่าของแท้แม่นยำที่สุดจึงยังต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงค่ะ


วิธีตรวจสอบสินค้าของแท้

ระหว่างกระเป๋า นาฬิกา และจิวเวลรี่ แตกต่างกันไหม?

แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงค่ะ กระเป๋า เช่น Louis Vuitton หรือ Goyard จะเน้นดูการต่อลาย, ตราปั๊ม, ฝีเย็บ และอะไหล่ต่าง ๆ ส่วนนาฬิกาจะต้องดูน้ำหนัก, กลไก, และความคมชัดของหน้าปัด ขณะที่จิวเวลรี่จะเน้นดูความสะอาดของเพชรและงานฝัง ซึ่ง JIPJIPMONEY มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับสินค้าทุกประเภทค่ะ


ถ้าใช้บริการตรวจสอบสินค้าของแท้แล้ว จะได้อะไรเป็นหลักฐาน?

เมื่อผ่านการตรวจสอบกับ JIPJIPMONEY แล้ว สินค้าที่เป็นของแท้จะได้รับ "ใบรับรองความแท้" (Certificate of Authenticity) จากเราค่ะ ซึ่งใบรับรองนี้สามารถใช้เพื่อสร้างความมั่นใจในการซื้อ-ขาย หรือใช้เป็นหลักประกันในการฝากขาย (bagforcash / watchforcash) กับเราได้ ทำให้ได้ราคาสูงขึ้นค่ะ


สรุปบทความ

การเรียนรู้วิธีดูกระเป๋าแท้ปลอมทั้ง 7 ข้อที่เรานำมาฝาก จะช่วยให้คุณสามารถคัดกรองและประเมินกระเป๋าแบรนด์เนมในเบื้องต้นได้อย่างแน่นอน การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่วัสดุ ฝีเย็บ ไปจนถึงกลิ่น คือหัวใจสำคัญของการแยกแยะของแท้ออกจากของปลอม 

แต่เพื่อความสบายใจสูงสุด การเลือก JIPJIPMONEY ช่วยตรวจสอบก็เป็นทางเลือกที่จะช่วยให้คุณมั่นใจพร้อมรับใบการันตีที่มีความน่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่สนใจใช้บริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ทันที


  • Line: @JIPJIPMONEY หรือ @bagforcash
  • โทร: 088-800-0000 ในช่วงวันและเวลาทำการ 10:00-19:00 น. ‍(‍ปิ‍ด‍วั‍น‍อ‍า‍ทิ‍ต‍ย์‍)‍‍
  • E-Mail: official@jipjipmoney.com